สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ! เชื่อเลยว่าหลายคนกำลังฝันอยากจะมีรถเก๋งคันแรกเป็นของตัวเองอยู่ใช่มั้ย? เบื่อแล้วกับการยืนรอรถเมล์นานๆ เบื่อแล้วกับการเรียกแอปแล้วไม่มีใครรับ อยากมีรถสักคันไว้ขับไปทำงานเท่ๆ เสาร์-อาทิตย์ก็ขับไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟนหรือครอบครัว… แค่คิดก็ฟินแล้วเนอะ! แต่พอเป็นรถคันแรก การจะไปถอยป้ายแดงเลยก็อาจจะหนักไปนิด “รถเก๋งมือสอง” นี่แหละคือคำตอบที่ใช่สุดๆ! มันเป็นทางเลือกที่ฉลาดมาก ได้รถในฝันในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นเยอะ และแน่นอนว่าวิธีที่ฮิตที่สุดในการเป็นเจ้าของก็คือการ “ผ่อน” นั่นเอง เอาล่ะ! ใครที่กำลังเล็งๆ อยู่ แต่ยังงงๆ ว่าต้องเริ่มยังไง? ต้องมีเงินเท่าไหร่? จัดไฟแนนซ์มันยากมั้ย? ไม่ต้องห่วงเลยครับ วันนี้ เรา จะมาเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัว ค่อยๆ เล่าให้ฟังทีละสเต็ป ผ่อนรถเก๋งมือสอง แบบเข้าใจง่ายที่สุด รับรองว่าไม่มีศัพท์ทางการให้ปวดหัวแน่นอน!

 

 


Chapter 1: สำรวจตัวเองก่อน! “ความพร้อม” ของเราอยู่เลเวลไหน?

ก่อนจะไปดูรถสวยๆ เรามาคุยเรื่องจริงจังแต่สำคัญที่สุดกันก่อน นั่นคือเรื่องเงินๆ ทองๆ ในกระเป๋าเรานี่แหละ เช็กให้ชัวร์ก่อน จะได้ไม่ไปเดือดร้อนเอาทีหลังนะ

1. เงินดาวน์พร้อมมั้ย?: “เงินดาวน์” ก็คือเงินก้อนแรกที่เราต้องจ่ายให้เต็นท์รถหรือคนขายไปก่อน ส่วนที่เหลือค่อยไปจัดไฟแนนซ์ผ่อนเอา ยิ่งเราดาวน์เยอะ ค่างวดต่อเดือนก็จะยิ่งถูกลง และไฟแนนซ์ก็จะอนุมัติให้เราง่ายขึ้นด้วย

  • คำแนะนำ: พยายามเก็บเงินดาวน์ให้ได้อย่างน้อยๆ 10% – 20% ของราคารถครับ เช่น รถราคา 300,000 บาท ก็ควรมีเงินดาวน์สัก 30,000 – 60,000 บาท กำลังสวยเลย

2. ผ่อนเดือนละเท่าไหร่ถึงจะ “ไหว”? นี่คือหัวใจเลย! สูตรคิดง่ายๆ ที่ เรา แนะนำคือ “ค่างวดรถ ไม่ควรเกิน 40-50% ของรายได้ต่อเดือน”

  • ตัวอย่าง: ถ้าเราเงินเดือน 20,000 บาท (หลังหักประกันสังคมอะไรหมดแล้วนะ) ค่างวดรถของเราก็ไม่ควรจะเกิน 8,000 – 10,000 บาท เพราะอย่าลืมว่าเรายังมีค่ากิน ค่าห้อง ค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเพียบ! ถ้าผ่อนหนักไป ชีวิตจะตึงเอาได้นะ

3. อย่าลืม “ค่าใช้จ่ายแฝง” ของการมีรถ! การมีรถไม่ได้จบแค่ค่างวดนะเพื่อน! มันยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาเป็นพรวนที่เราต้องเตรียมใจไว้ด้วย

  • ค่าประกันภัยรถยนต์: ปีละประมาณ 8,000 – 15,000 บาท (สำหรับประกันชั้น 2+ หรือชั้น 1)
  • ค่าต่อทะเบียน, พ.ร.บ.: ปีละประมาณ 2,000 – 3,000 บาท
  • ค่าบำรุงรักษา: ถ่ายน้ำมันเครื่อง, เช็กระยะ, เปลี่ยนยาง อันนี้ต้องมีเงินสำรองไว้เลยสำหรับรถมือสอง
  • ค่าน้ำมัน: อันนี้แล้วแต่ว่าขับเยอะขับน้อย แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนแน่นอน

Chapter 2: ได้เวลาออกล่า! จะไปหารถเก๋งคู่ใจได้จากที่ไหน?

พอเราประเมินตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาที่สนุกที่สุด นั่นคือการตามหารถที่ใช่! แหล่งหลักๆ ก็จะมีอยู่ 3 ที่

  • เต็นท์รถมือสอง:
    • ข้อดี: มีรถให้เลือกเยอะ จอดเรียงกันให้เราเดินดูสบายๆ ส่วนใหญ่เขาจะช่วยจัดการเรื่องไฟแนนซ์ให้เราเสร็จสรรพ สะดวกมาก
    • ข้อควรระวัง: ราคารถอาจจะสูงกว่าที่อื่นนิดหน่อย เพราะเขามีต้นทุนค่าสถานที่ ค่าพนักงาน
  • โลกออนไลน์ (Facebook Marketplace, One2car, Taladrod):
    • ข้อดี: รถเยอะมากกกก! มีทุกรุ่นทุกราคาให้เลือก เปรียบเทียบได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
    • ข้อควรระวัง: เราต้องไปดูรถเอง ตรวจสอบเอง และต้องระวังมิจฉาชีพ ต้องนัดเจอในที่สว่างๆ และอย่าโอนเงินมัดจำไปก่อนเด็ดขาดถ้ายังไม่เห็นรถ
  • รถบ้าน (เจ้าของขายเอง):
    • ข้อดี: ส่วนใหญ่มักจะได้รถที่สภาพดี เพราะเจ้าของดูแลมากับมือ และมักจะได้ราคาดีกว่าเต็นท์
    • ข้อควรระวัง: เราต้องเป็นคนไปเดินเรื่องหาไฟแนนซ์เอง ซึ่งอาจจะวุ่นวายกว่านิดหน่อย

Chapter 3: จัดไฟแนนซ์… จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าที่คิด!

มาถึงขั้นตอนที่หลายคนกลัว แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลย! “การจัดไฟแนนซ์” ก็คือการไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาจ่ายค่ารถนั่นเอง

ใครเป็นคนให้เรากู้ (จัดไฟแนนซ์)? ก็คือ “บริษัทสินเชื่อรถยนต์” ที่เราคุยกันไปคราวก่อนนั่นแหละครับ แบ่งเป็น 2 ทีมเหมือนเดิม

  • ทีมธนาคาร (เช่น KKP, TISCO): ดอกเบี้ยอาจจะดีหน่อย แต่เอกสารต้องเป๊ะ
  • ทีม Non-Bank (ศรีสวัสดิ์, เงินติดล้อ ฯลฯ): อนุมัติง่ายและไว แต่ดอกเบี้ยอาจจะสูงกว่านิดนึง

ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? (ฉบับเบสิก)

  1. บัตรประชาชน
  2. ทะเบียนบ้าน
  3. สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  4. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) 6 เดือน

ส่วนใหญ่ถ้าเราซื้อรถจากเต็นท์ ทางเต็นท์เขาจะมีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ของหลายๆ ที่มาบริการเราถึงที่เลย แค่เราเตรียมเอกสารไปให้พร้อมก็พอ


Chapter 4: เรื่องลับๆ ที่ต้องรู้! ก่อนจะเซ็นสัญญา ผ่อนรถเก๋งมือสอง

ก่อนจะจบกันไป เราขอบอกทริคและจุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับชาวรถมือสองโดยเฉพาะเลย!

  • ดอกเบี้ยรถมือสอง “แพงกว่า” รถป้ายแดงเสมอ: อันนี้ต้องทำใจยอมรับนะครับ เพราะความเสี่ยงของไฟแนนซ์เขาสูงกว่า
  • ระวัง VAT 7% ที่ซ่อนอยู่!: เวลาเราซื้อรถมือสองกับเต็นท์หรือบริษัท ส่วนใหญ่ราคารถยังไม่รวม VAT 7% นะครับ และที่สำคัญคือ VAT นี้จะถูกนำไปรวมกับยอดจัดไฟแนนซ์ด้วย ทำให้ค่างวดเราสูงขึ้นนิดหน่อย ต้องถามเซลส์ให้เคลียร์เลยว่า “ราคานี้รวม VAT แล้วหรือยัง?”
  • พาคนที่ดูรถเป็นไปด้วยเสมอ!: ถ้าเราดูรถไม่เป็น ให้พาเพื่อน, พี่, หรือช่างที่ไว้ใจได้ไปด้วย เพื่อช่วยเช็กว่ารถเคยชนหนักหรือจมน้ำมามั้ย จุดนี้สำคัญกว่าราคาอีกนะ!
  • อ่านสัญญาให้ดีๆ ก่อนจรดปากกา: เช็กยอดจัด, ค่างวด, จำนวนงวด, ดอกเบี้ย ให้ตรงกับที่คุยกันไว้ทุกตัวอักษร!

บทสรุป ผ่อนรถเก๋งมือสอง

การผ่อนรถเก๋งมือสองสักคันอาจจะดูมีหลายขั้นตอน แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราค่อยๆ ทำไปทีละสเต็ปตามที่ เรา ไกด์ให้ มันไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนครับ การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้เราได้รถที่ดีในเงื่อนไขที่ใช่ และมีความสุขกับรถคันแรกของเราไปอีกนาน

ถ้าเพื่อนๆ อ่านจบแล้วยังมีคำถามในใจ หรือรู้สึกว่าการเดินเรื่องไฟแนนซ์มันยังดูวุ่นวายอยู่… ไม่ต้องกังวลเลยนะ! ทักมาคุยปรึกษา เรา ได้เสมอ เรา พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดและให้คำแนะนำดีๆ ในเส้นทางคนมีรถของคุณครับ!

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย

Categories: blog

0 Comments

Leave a Reply

Avatar placeholder

Your email address will not be published. Required fields are marked *