“รถคู่ทุกข์คู่ยาก” คำนี้น่าจะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับรถยนต์เก่าๆ ของเราได้ดีที่สุดใช่ไหมครับ? มันอาจจะไม่ใช่รถที่ใหม่ที่สุด สวยที่สุด แต่ก็เป็นคันที่พาเราผ่านร้อนผ่านหนาว สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกัน จนวันนี้อายุอานามของมันอาจจะล่วงเลยไป 20 ปี 22 ปี หรืออาจจะ 25 ปีแล้วด้วยซ้ำ มันยังวิ่งได้ดี แอร์ยังเย็น เพลงยังดัง แต่พอถึงวันที่เราเกิดต้องการเงินก้อนฉุกเฉินขึ้นมา แล้วมองไปที่รถคันนี้… กำแพงที่มองไม่เห็นที่ชื่อว่า “อายุเกิน 20 ปี” ก็ดูเหมือนจะตั้งตระหง่านขึ้นมาทันที หลายคนคงเคยเจอกับประสบการณ์ที่น่าท้อใจ เดินเข้าไปปรึกษาสถาบันการเงินใหญ่ๆ แล้วได้รับคำตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “ขออภัยค่ะ เรารับรถอายุไม่เกิน 15 ปี” จนเกือบจะถอดใจและคิดว่ารถของเราคงไม่มีค่าอะไรแล้ว เดี๋ยวก่อนครับ! อย่าเพิ่งหมดหวัง! วันนี้ เรา จะมาบอกข่าวดีและเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่จะพาคุณก้าวข้ามกำแพงนี้ไปให้ได้ เราจะมาไขความลับให้กระจ่างว่า การขอ “สินเชื่อรถเกิน20ปี” นั้น แม้จะ “ยาก” แต่ก็ “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เลยแม้แต่น้อย! มันมีทางของมันอยู่ครับ และในบทความนี้ เราจะบอกทุกขั้นตอน ทุกเคล็ดลับ เพื่อปลดล็อกมูลค่าที่ซ่อนอยู่ในรถเก่าของคุณ!
ทำความเข้าใจก่อน: ทำไมไฟแนนซ์ส่วนใหญ่ถึงกลัวรถเก่า?
ก่อนที่เราจะไปดูทางออก เรามาทำความเข้าใจมุมมองของฝั่งผู้ให้กู้ (ไฟแนนซ์) กันก่อนดีกว่าครับว่า ทำไมคำว่า “รถเก่า” ถึงเป็นเหมือนยาขมสำหรับพวกเขา การเข้าใจเหตุผลของเขาจะทำให้เราเห็นภาพรวมและเตรียมตัวได้ดีขึ้น
เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ธนาคารหรือไฟแนนซ์ใหญ่ๆ ตั้งกำแพงเรื่องอายุรถไว้สูงก็เพราะ “ความเสี่ยง” ครับ
- ความเสี่ยงเรื่องราคาที่ตกลงอย่างรวดเร็ว (Depreciation Risk): รถยนต์ยิ่งอายุเยอะ มูลค่าก็จะยิ่งตกลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไฟแนนซ์จะกังวลว่า หากผู้กู้เกิดผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมา แล้วพวกเขายึดรถไปขายทอดตลาด ราคาที่ขายได้อาจจะต่ำกว่ายอดหนี้ที่ค้างอยู่ ทำให้พวกเขาขาดทุนได้
- ความเสี่ยงเรื่องการซ่อมบำรุง (Maintenance Risk): รถที่อายุเยอะย่อมมีโอกาสเสียหรือต้องซ่อมบำรุงบ่อยกว่ารถใหม่ๆ ไฟแนนซ์จะมองว่า หากเจ้าของรถต้องเสียเงินซ่อมรถบ่อยๆ ก็อาจจะกระทบกับความสามารถในการผ่อนชำระค่างวดได้
- ความเสี่ยงในการขายต่อ (Resale Risk): ตลาดสำหรับรถที่อายุเกิน 20 ปีนั้นค่อนข้างเล็กและเฉพาะกลุ่ม การจะขายรถเก่าๆ หนึ่งคันออกไปนั้นยากและใช้เวลานานกว่ารถที่ใหม่กว่ามาก ทำให้มันเป็นสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ยากในมุมมองของไฟแนนซ์
- ความเสี่ยงเรื่องอะไหล่ (Parts Availability Risk): รถบางรุ่นที่เก่ามากๆ อาจจะหาอะไหล่ได้ยาก ซึ่งก็ส่งผลต่อการซ่อมบำรุงและราคาขายต่อเช่นกัน
ด้วยความเสี่ยงทั้ง 4 ข้อนี้เอง ทำให้ “ธนาคาร” ที่นโยบายค่อนข้างเนี้ยบและเน้นความเสี่ยงต่ำ มักจะขีดเส้นตายอายุรถไว้ที่ไม่เกิน 15-20 ปีอย่างเด็ดขาด แต่…นี่ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องราวครับ!
ทางออกอยู่ที่นี่: รู้จักกับเหล่าฮีโร่ของรถเก่า “กลุ่ม Non-Bank”
เมื่อประตูบานหนึ่งของ “ธนาคาร” ปิดลง… ประตูอีกหลายๆ บานของสถาบันการเงินกลุ่ม “Non-Bank” จะเปิดอ้ารอคุณอยู่ครับ!
นี่คือกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีตามสาขาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศรีสวัสดิ์, เมืองไทย แคปปิตอล, เงินติดล้อ และเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย บริษัทเหล่านี้คือ “ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง” สำหรับสินเชื่อรถอายุเยอะครับ
ทำไม Non-Bank ถึงกล้าที่จะแตกต่าง? เพราะโมเดลธุรกิจและวิธีคิดของเขาไม่เหมือนกับธนาคารครับ
- เขาไม่ได้มองแค่ “ตัวเลขปี” แต่เขามองที่ “สภาพรถ” จริงๆ: นี่คือหัวใจสำคัญเลยครับ! พนักงานของ Non-Bank ถูกฝึกมาให้ประเมินรถตามสภาพหน้างานจริง เขาจะดูว่าเครื่องยนต์ยังดีไหม? ตัวถังผุรึเปล่า? ภายในยังสวยไหม? สียังดูดีอยู่ไหม? ถ้าสภาพโดยรวมมันยัง “สวยเกินวัย” เขาก็พร้อมจะอนุมัติให้
- เขามีความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่น: เขารู้ดีว่ารถกระบะ Toyota Mighty-X อายุ 25 ปีในต่างจังหวัด ยังคงเป็นที่ต้องการของชาวไร่ชาวสวนและมีราคาซื้อขายกันอยู่จริงๆ เขามีความเข้าใจในตลาดรถเก่าที่ลึกลงไปมากกว่าแค่การดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์
- เขามีความยืดหยุ่นสูง: นี่คือจุดแข็งที่สุดของพวกเขา กฎเกณฑ์ไม่ได้แข็งทื่อเหมือนธนาคาร แต่ใช้ดุลยพินิจของพนักงานประเมินในพื้นที่เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ
แล้วรถเก่าแบบไหนที่ Non-Bank มักจะชอบเป็นพิเศษ? ถึงจะยืดหยุ่น แต่ก็ไม่ใช่ว่ารถเก่าทุกคันจะผ่านฉลุยนะครับ รถที่มีแนวโน้มจะได้รับการอนุมัติสูงคือ:
- รถตลาดที่ยังเป็นที่นิยม: เช่น Toyota Hilux (ตระกูล Mighty-X, Tiger), Isuzu TFR (มังกรทอง), Toyota Corolla (สามห่วง, ตองหนึ่ง), Honda Civic (เตารีด, ตาโต) รถเหล่านี้แม้จะเก่า แต่ยังซื้อง่ายขายคล่อง อะไหล่เยอะ และเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ
- รถที่สภาพดีจริงๆ: รถที่เจ้าของดูแลอย่างดี สีสวยเงางาม ภายในสะอาด ไม่มีรอยชนหนัก ย่อมมีโอกาสสูงกว่ารถที่สภาพโทรมอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งที่ต้องยอมรับ: ข้อเสนอ สินเชื่อรถเกิน20ปี ที่คุณจะได้รับอาจเป็นแบบนี้
การที่เราสามารถนำรถเก่าอายุเกิน 20 ปีมาขอสินเชื่อได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แล้วครับ แต่เราก็ต้องเปิดใจยอมรับความเป็นจริงในแง่ของ “ข้อเสนอ” ที่เราจะได้รับด้วย ซึ่งมันเป็นไปตามกลไกของความเสี่ยงที่สูงขึ้นนั่นเอง
- วงเงินที่อาจไม่สูงนัก (Lower Loan Amount): อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้วงเงิน 80-90% ของราคาที่คุณคิดไว้ในใจนะครับ ไฟแนนซ์จะประเมินราคาแบบระมัดระวัง (Conservative) มากๆ และให้วงเงินในระดับที่เขามั่นใจว่าจะไม่ขาดทุนแน่นอน เช่น รถที่คุณคิดว่าน่าจะขายได้ 80,000 บาท เขาอาจจะให้วงเงินสินเชื่อที่ 40,000 – 50,000 บาท เป็นต้น
- อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ (Higher Interest Rate): นี่คือสิ่งที่ต้องแลกมากับโอกาสในการได้รับอนุมัติครับ เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงขึ้นของรถเก่า อัตราดอกเบี้ยย่อมสูงกว่าสินเชื่อของรถที่ใหม่กว่าอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม เราขอย้ำว่าดอกเบี้ยนี้ก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของกฎหมาย และดีกว่าการไปกู้นอกระบบเป็นร้อยเท่าพันเท่าครับ
- ระยะเวลาผ่อนที่อาจจะสั้นลง (Shorter Repayment Period): ไฟแนนซ์อาจจะไม่อยากแบกรับความเสี่ยงในระยะยาว เขาอาจจะเสนอระยะเวลาผ่อนชำระให้คุณที่ 12, 24, หรือ 36 เดือน แทนที่จะเป็น 60-72 เดือนเหมือนรถใหม่ๆ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ค่างวดต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย
เคล็ดลับเพิ่มโอกาส: เตรียมรถและเตรียมตัวอย่างไรให้กู้ สินเชื่อรถเกิน20ปี ง่ายขึ้น
ข่าวดีก็คือ เราสามารถเพิ่มโอกาสในการอนุมัติและอาจจะทำให้ได้วงเงินที่ดีขึ้นได้ด้วยการเตรียมตัวที่ดีครับ!
การเตรียม “รถ” ของเรา:
- อาบน้ำแต่งหล่อให้เต็มที่: นี่คือสิ่งที่สำคัญและง่ายที่สุดครับ! นำรถไปล้างสีดูดฝุ่นให้สะอาดเอี่ยมอ่องที่สุดเท่าที่จะทำได้ รถที่ดูสะอาด เงางาม จะสร้างความประทับใจแรกที่ดีมากๆ และทำให้พนักงานรู้สึกว่า “รถคันนี้เจ้าของรักและดูแลอย่างดี”
- ซ่อมแซมจุดเล็กๆ น้อยๆ: ไฟเลี้ยวขาด? ที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน? ถ้ามีจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อมได้ในราคาไม่แพง จัดการซ่อมให้เรียบร้อยก่อนนำรถไปประเมินครับ
- รวบรวมประวัติการดูแลรักษา: หากคุณมีบิลใบเสร็จการซ่อมบำรุงครั้งล่าสุด เช่น เพิ่งเปลี่ยนยางมาใหม่, เพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่, หรือเพิ่งฟิตเครื่องมา ให้รวบรวมเอกสารเหล่านี้ไปด้วย มันคือหลักฐานชั้นดีที่พิสูจน์ว่ารถของคุณยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
การเตรียม “ตัว” ของเรา:
- เล่มทะเบียนต้องพร้อมและเป็นชื่อเรา: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเล่มทะเบียนรถยนต์เป็นชื่อของคุณเองและไม่มีการชำรุดสูญหาย
- แสดงให้เห็นว่าเรามีรายได้: แม้ Non-Bank จะยืดหยุ่น แต่เขาก็ต้องมั่นใจว่าเราจะผ่อนไหว หากคุณไม่มีสลิปเงินเดือน ให้เตรียมเอกสารอื่นๆ ไปแทน เช่น รายการเดินบัญชี (Statement), รูปถ่ายหน้าร้าน (สำหรับคนค้าขาย), หรือสัญญาจ้างงาน (สำหรับฟรีแลนซ์)
- เดินสายเปรียบเทียบ: อย่าเพิ่งหมดหวังกับ Non-Bank เจ้าแรกที่ไปถาม ลองเข้าไปสอบถามข้อมูลจากหลายๆ ที่ (อย่างน้อย 2-3 แห่ง) เพราะแต่ละที่อาจจะมีนโยบายการประเมินราคารถรุ่นเก่าๆ ที่แตกต่างกันเล็กน้อย
บทสรุป
การขอ “สินเชื่อรถเกิน 20 ปี” อาจเปรียบเหมือนการเดินทางที่ต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติสักหน่อย มันไม่ใช่เส้นทางสำหรับธนาคารใหญ่ๆ ที่ชอบความเสี่ยงต่ำ แต่เป็นเส้นทางสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างกลุ่ม Non-Bank ที่มองเห็น “มูลค่า” ในสิ่งที่คนอื่นอาจมองข้าม
หัวใจสำคัญคือการ “ยอมรับความจริง” ในเรื่องของวงเงินและดอกเบี้ย และ “เตรียมตัวให้ดีที่สุด” ทั้งในแง่ของสภาพรถและเอกสารของเรา รถเก่าของคุณไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่คิดครับ มันยังคงเป็นทรัพย์สินที่สามารถแปรเปลี่ยนมาเป็นเงินสดเพื่อช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
แน่นอนว่าการเดินเข้าไปคุยกับ Non-Bank แต่ละเจ้าเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจ… และนี่คือจุดที่ เรา สามารถช่วยคุณได้ เรา มีเครือข่ายและความเข้าใจในตลาดสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นอย่างดี เราสามารถช่วยชี้เป้าและให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ว่ารถรุ่นของคุณน่าจะไปปรึกษาที่ไหนถึงจะมีโอกาสดีที่สุด
อย่าเพิ่งถอดใจครับ ลองทักเข้ามาพูดคุยกับ เรา ก่อน ให้ เรา ได้เป็นเพื่อนคู่คิดและช่วยคุณหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับรถคู่ทุกข์คู่ยากของคุณนะครับ!
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
0 Comments