“เมื่อไหร่จะมีรถเป็นของตัวเองสักทีนะ?” …เชื่อว่านี่คือหนึ่งในความฝันและความสำเร็จเล็กๆ ที่หลายคนวาดไว้ การมีรถยนต์คู่ใจสักคัน ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่มันคืออิสระ คือรางวัลของความพยายาม และคือโอกาสที่จะพาเราและครอบครัวไปได้ทุกที่ เราเข้าใจและสนับสนุนความฝันของคุณอย่างเต็มที่ครับ แต่ในฐานะเพื่อนคู่คิดทางการเงิน เราก็อยากเห็นคุณมีความสุขกับรถคันใหม่ไปนานๆ โดยไม่มีเรื่องปวดหัวทางการเงินตามมาทีหลัง วันนี้เราเลยอยากจะมาชวนคุณคุยกันแบบสบายๆ ลองมาคิดเลขบวกลบกันดูว่า “ผ่อน รถ เงินเดือน เท่า ไหร่” ไปกันเลยครับ!

กฎทองข้อแรก: “ค่างวดรถ” ที่ปลอดภัย ไม่ควรเกินเท่าไหร่ของเงินเดือน?

ก่อนจะไปดูราคารถ มาดูที่ตัวเราก่อนดีกว่าครับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนใหญ่มี “กฎเหล็ก” ที่แนะนำตรงกันว่า ภาระหนี้สินทั้งหมดของเรา ไม่ควรเกิน 40-50% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่ง “หนี้สินทั้งหมด” นี่หมายถึงรวมทุกอย่างเลยนะครับ ทั้งค่าผ่อนบ้าน, บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล และ “ค่างวดรถ” ที่กำลังจะเพิ่มเข้ามา

แต่เพื่อให้ชีวิตไม่ตึงจนเกินไป เรามาโฟกัสที่ “ค่างวดรถ” อย่างเดียวกันดีกว่าครับ สูตรคำนวณที่ปลอดภัยและสบายใจที่สุดคือ:

“ค่างวดรถ ไม่ควรเกิน 15-20% ของเงินเดือน”

ทำไมถึงเป็นตัวเลขนี้? เพราะมันจะทำให้คุณยังมีเงินเหลือพอสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน มีเงินเก็บออม และรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้โดยไม่เดือดร้อน

ลองคำนวณเล่นๆ ดูครับ:

• ถ้าเงินเดือน 20,000 บาท ค่างวดที่ปลอดภัยคือ 3,000 – 4,000 บาท/เดือน
• ถ้าเงินเดือน 30,000 บาท ค่างวดที่ปลอดภัยคือ 4,500 – 6,000 บาท/เดือน
• ถ้าเงินเดือน 50,000 บาท ค่างวดที่ปลอดภัยคือ 7,500 – 10,000 บาท/เดือน

นี่คือตัวเลขตั้งต้นที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพกว้างๆ ว่ารถที่คุณเล็งไว้ มีค่างวดอยู่ในเกณฑ์นี้หรือไม่

อย่ามองข้าม! “เพื่อนๆ ของค่างวด” หรือค่าใช้จ่ายแฝงของการมีรถ

เรื่องจริงที่คนมีรถทุกคนต้องเจอคือ…ค่าใช้จ่ายมันไม่ได้จบแค่ค่างวดน่ะสิครับ การมีรถหนึ่งคัน เหมือนมี “เพื่อนๆ” ตามมาอีกเป็นขบวนเลย ซึ่งเราต้องเตรียมเงินไว้ต้อนรับเพื่อนๆ เหล่านี้ด้วยนะ

• ค่าน้ำมัน: เพื่อนซี้ที่ต้องเจอกันทุกสัปดาห์ (ประมาณ 2,000 – 4,000 บาท/เดือน)
• ค่าประกันภัย: เพื่อนที่มาปีละครั้ง แต่มาทีก็ก้อนใหญ่ (เฉลี่ยเดือนละ 1,000 – 1,500 บาท)
• ค่าบำรุงรักษา: เพื่อนที่ต้องคอยดูแล เช็คระยะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง (เก็บสำรองไว้เดือนละ 500 – 1,000 บาท)
• ค่าทางด่วน / ค่าที่จอดรถ: เพื่อนจุกจิกสำหรับคนในเมือง (ประมาณ 500 – 1,500 บาท/เดือน)
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: เช่น ค่าล้างรถ, ค่าต่อภาษีประจำปี, ค่ายางรถยนต์

เห็นไหมครับว่ารวมๆ แล้วอาจจะมี ค่าใช้จ่ายแฝงเพิ่มขึ้นมาอีกราว 4,000 – 7,000 บาทต่อเดือน เลยทีเดียว!

มาลองคำนวณภาพจริงกัน: อยากผ่อนรถเดือนละ 7,000 ต้อง ผ่อน รถ เงินเดือน เท่า ไหร่?

ทีนี้เราลองมาคำนวณจาก “รถที่อยากได้” กลับมาหา “เงินเดือนที่ควรมี” กันบ้าง

สมมติว่า: คุณไปเจอรถมือสองสภาพดีคันหนึ่ง คำนวณแล้วมีค่างวดประมาณ 7,000 บาท/เดือน

1. คำนวณหาเงินเดือนที่ปลอดภัยจากค่างวด:
   • ใช้สูตร 20% -> (7,000 / 20) x 100 = 35,000 บาท
   • ดังนั้น คุณควรมีเงินเดือนอย่างน้อย 35,000 บาท เพื่อจะผ่อนรถคันนี้ได้แบบไม่ตึงเกินไป
2. คำนวณภาระค่าใช้จ่ายจริงต่อเดือน:
   • ค่างวดรถ: 7,000 บาท
   • บวก ค่าใช้จ่ายแฝง (ประมาณ): 5,000 บาท
   • รวมภาระที่แท้จริงต่อเดือน = 12,000 บาท
3. ถามใจตัวเองครั้งสุดท้าย:
   • เมื่อเห็นว่าภาระที่แท้จริงคือ 12,000 บาทต่อเดือน เทียบกับเงินเดือน 35,000 บาท (คิดเป็น 34%) คุณบริหารจัดการไหวไหม? ยังมีเงินเหลือเก็บ เหลือใช้จ่ายส่วนตัวเพียงพอหรือเปล่า?

การคำนวณแบบนี้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพความเป็นจริงทั้งหมด และตัดสินใจได้อย่างรอบคอบครับ

แล้ว “เงินให้ใจ” จะช่วยคุณในเรื่องนี้ได้อย่างไร?

บทความทั้งหมดนี้ คือตัวอย่างของความตั้งใจจริงจากเราครับ… ที่ “เงินให้ใจ” เราไม่ได้แค่มองเรื่องการอนุมัติสินเชื่อ แต่เราอยากเห็นคุณมีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรงไปพร้อมกับการมีรถในฝัน

เราอยากให้คุณใช้เวลาวางแผนให้ดีที่สุดก่อนตัดสินใจก้าวแรก และเมื่อถึงวันที่คุณได้เป็นเจ้าของรถสมใจแล้ว ก็อยากให้คุณจำไว้เสมอว่า… รถของคุณไม่ใช่แค่ “หนี้สิน” แต่มันคือ “ทรัพย์สิน” ที่มีมูลค่า

ในอนาคต หากคุณต้องการเงินทุนฉุกเฉิน, ต้องการเงินต่อยอดธุรกิจ หรืออยากปรับโครงสร้างหนี้ รถคันเก่งของคุณสามารถช่วยคุณได้เสมอ ผ่านบริการ “สินเชื่อรถแลกเงิน“ ที่เราเชี่ยวชาญ เราพร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดและช่วยปลดล็อกมูลค่ารถของคุณ ให้กลายเป็นเงินทุนสำรองในวันที่คุณต้องการมากที่สุด

บทสรุปที่เป็นกันเองจากเรา

การมีรถยนต์เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การมีรถพร้อมกับสุขภาพการเงินที่ดียิ่งกว่า “เงินให้ใจ” ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อจะได้มีความสุขกับรถในฝันไปนานๆ นะครับ

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย