การมีรถยนต์เป็นของตัวเองในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในอดีตอีกต่อไป เพราะมีทางเลือกหลายรูปแบบให้สามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่งคนที่มีเงินเดือน 9,000 บาทก็ยังสามารถซื้อรถได้ แต่การเลือกซื้อรถในกรณีที่มีรายได้น้อยแบบนี้ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเพื่อไม่ให้กระทบกับการเงินในระยะยาว วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ถ้า เงินเดือน 9 000 ซื้อรถได้ไหม เราควรเลือกซื้อรถอย่างไรดี
8 คำแนะนำในการเลือกซื้อรถของคนเงินเดือน 9000 บาท
1. รู้จักการจัดการการเงินก่อนตัดสินใจซื้อรถ
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเองก่อน โดยปกติแล้วสถาบันการเงินจะคำนวณว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่จากหลายปัจจัย รวมถึงรายได้ที่เรามี ในกรณีที่มีเงินเดือน 9,000 บาท การพิจารณาค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถ เช่น ค่างวดรถ ค่าประกัน ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าภาษีและทะเบียน ค่าจอดรถ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ควรเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง
2. คำนวณค่างวดรถที่เหมาะสม
ในกรณีที่เงินเดือน 9,000 บาท คุณอาจต้องเลือกการผ่อนรถในระยะยาวเพื่อให้ค่างวดรถไม่สูงเกินไป ซึ่งสถาบันการเงินมักจะให้คุณผ่อนชำระได้ไม่เกิน 20-30% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งในกรณีของเงินเดือน 9,000 บาท ก็คือค่างวดรถควรจะไม่เกิน 2,700 – 3,000 บาท
แต่อย่างที่บอกไป การเลือกผ่อนค่างวดรถไม่ใช่แค่เรื่องเงินกู้เท่านั้น ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย ดังนั้นการคำนวณงบประมาณของคุณสำหรับการใช้รถทั้งคันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
3. เลือกซื้อรถที่มีราคาไม่สูงเกินไป
เมื่อตัดสินใจว่าค่างวดรถที่คุณสามารถจ่ายได้ในแต่ละเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกซื้อรถ เราขอแนะนำว่าในกรณีที่มีเงินเดือน 9,000 บาท ควรเลือกซื้อรถที่ราคาไม่สูงเกินไป โดยเฉพาะรถมือสองที่มีสภาพดี หรือรถที่คำนึงถึงการใช้งานและประหยัดค่าใช้จ่าย
รถยนต์ในตลาดมีราคาหลายระดับ แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท การเลือกซื้อรถในกลุ่มราคาประมาณ 200,000 – 300,000 บาท น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะราคาค่างวดจะไม่สูงเกินไป
4. รถมือสอง ทางเลือกที่ดีสำหรับคนมีงบจำกัด
หนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้นคือการเลือกซื้อรถมือสอง รถมือสองมีราคาถูกกว่ารถใหม่หลายเท่าตัว ซึ่งสามารถทำให้คุณผ่อนค่างวดได้เบาและสามารถหาเงินที่เหลือไปจ่ายค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้
การซื้อรถมือสองต้องตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจจะต้องมีการตรวจสอบกับช่างผู้เชี่ยวชาญหรือซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตัวแทนจำหน่ายที่มีชื่อเสียง หรือบริษัทที่มีบริการรับประกันรถมือสอง
5. เลือกสินเชื่อที่เหมาะสม
การเลือกสินเชื่อสำหรับการซื้อรถในกรณีที่มีเงินเดือน 9,000 บาทก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสถาบันการเงินแต่ละแห่งอาจมีข้อกำหนดหรืออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกสินเชื่อรถยนต์ที่มีดอกเบี้ยต่ำ หรือเงื่อนไขที่ดี เช่น การผ่อนชำระระยะยาวหรือการป้องกันการเบิกถอนบัตรเครดิตเมื่อผ่อนชำระไม่ได้จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
นอกจากนี้การเลือกสินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีดาวน์ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ถ้าหากคุณไม่มีเงินก้อนมากพอสำหรับดาวน์รถ โดยสินเชื่อประเภทนี้อาจจะช่วยให้คุณสามารถซื้อรถได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ แต่ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงกว่าแบบที่มีดาวน์
6. การดูแลรักษาและประกันภัยรถยนต์
หลังจากที่คุณซื้อรถมาแล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาให้ดี เพื่อให้อยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ยาวนาน ไม่เกิดปัญหาที่ทำให้คุณต้องเสียเงินเยอะในการซ่อมแซม ซึ่งการบำรุงรักษารถยนต์ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึง เพราะหากคุณไม่ได้ดูแลรถให้ดี อาจจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากกว่าค่าซื้อรถเอง
อีกสิ่งที่สำคัญคือการทำประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือลูกค้าเสียหายจากรถของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นผู้ขับขี่ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์หรือใช้รถยนต์เป็นระยะเวลาน้อย ค่าประกันภัยอาจจะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้
7. การเลือกประกันภัยที่เหมาะสมกับรายได้
ประกันภัยรถยนต์มีหลายแบบให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของความคุ้มครองและราคา สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำ ควรเลือกประกันที่คุ้มค่ากับราคาและให้ความคุ้มครองที่ครบถ้วนที่สุด เช่น ประกันภัยชั้น 3 หรือ 2+ ที่มีราคาประหยัด แต่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือภัยจากการใช้งาน
8. เทคนิคการขอจัดไฟแนนซ์ให้ผ่านง่าย ๆ
การเป็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่ถือเป็นความฝันของหลาย ๆ คน แต่บางครั้งการขอสินเชื่อจัดไฟแนนซ์ก็อาจเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะหากปัญหาหลักคือการจัดไฟแนนซ์ไม่ผ่าน เนื่องจากรายได้ไม่ชัดเจน หรือรายได้ไม่พอที่จะครอบคลุมค่างวดที่ต้องผ่อนทุกเดือน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะหากทำตามเทคนิคต่าง ๆ ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ คุณก็จะสามารถเพิ่มโอกาสให้การขอสินเชื่อผ่านได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น
การจัดไฟแนนซ์คืออะไร?
การจัดไฟแนนซ์คือกระบวนการในการขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ซึ่งทางสถาบันการเงินจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้และคุณจะได้รับรถยนต์มาใช้งาน โดยคุณจะต้องผ่อนค่างวดและจ่ายดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา
รายได้ที่ต้องมีเพื่อขอสินเชื่อให้ผ่านง่าย
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขอจัดไฟแนนซ์ให้ผ่าน คือรายได้ของคุณ ค่างวดที่คุณจะต้องจ่ายในแต่ละเดือนจะต้องสมดุลกับรายได้ที่มีอยู่ โดยทั่วไปแล้ว คุณควรมีรายได้ขั้นต่ำที่มากกว่า 50% ของค่างวดที่ต้องจ่าย เช่น
- หากค่างวดรถเดือนละ 7,500 บาท คุณควรมีรายได้อย่างน้อย 15,000 บาท/เดือน
- หากค่างวดรถเดือนละ 8,000 บาท คุณควรมีรายได้อย่างน้อย 16,000 บาท/เดือน
หากรายได้ของคุณไม่ถึงเกณฑ์นี้ ก็อาจจะทำให้การขอสินเชื่อไม่ผ่าน หรืออาจต้องมีการพิจารณาเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การหาผู้ค้ำประกัน หรือการยื่นเอกสารเพิ่มเติม
อาชีพที่มีโอกาสผ่านการจัดไฟแนนซ์สูง
อาชีพของคุณก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สถาบันการเงินจะพิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อ ยิ่งหากอาชีพของคุณมีความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงินสูง ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับสินเชื่อที่ผ่านเร็วขึ้น ซึ่งอาชีพที่มีโอกาสผ่านไฟแนนซ์สูง ได้แก่
- พนักงานบริษัท: การทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงและมั่นคง จะทำให้สถาบันการเงินเห็นว่าอาชีพนี้มีรายได้สม่ำเสมอ และสามารถผ่อนชำระได้
- ข้าราชการ: อาชีพข้าราชการถือว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง เนื่องจากเงินเดือนและสวัสดิการที่ได้รับจากรัฐ
- พนักงานรัฐวิสาหกิจ: อาชีพนี้ก็ถือว่ามีความมั่นคงสูงเช่นเดียวกับข้าราชการ
- กลุ่มอาชีพพิเศษ: เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ นักบินเอกชน ศาสตราจารย์ อัยการ หรือผู้พิพากษา เป็นต้น เพราะรายได้ของกลุ่มอาชีพเหล่านี้มักจะสูงและมีเสถียรภาพทางการเงินที่ดี
หากคุณทำงานในอาชีพเหล่านี้ การขอสินเชื่อจัดไฟแนนซ์จะมีโอกาสผ่านได้ง่ายและเร็วขึ้น
เอกสารที่จำเป็นในการขอสินเชื่อจัดไฟแนนซ์
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การขอสินเชื่อของคุณได้รับการพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยเอกสารที่ต้องใช้จะแตกต่างกันไปตามอาชีพของแต่ละคน โดยทั่วไปจะมีเอกสารหลัก ๆ ดังนี้
สำหรับพนักงานบริษัท
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
สำหรับข้าราชการ
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- หน้าเพจ หรือหน้า Facebook ที่โพสต์ขายสินค้า
- เอกสารหัก ณ ที่จ่าย ทวิ 50
สำหรับอาชีพค้าขาย
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- ใบจดทะเบียนพาณิชย์ หรือสัญญาเช่าร้าน (กรณีเช่าร้าน)
- รูปถ่ายร้านค้า หรือบิลซื้อขายสินค้า (กรณีไม่มีหน้าร้าน)
สำหรับฟรีแลนซ์
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารหัก ณ ที่จ่าย ทวิ 50
- หนังสือสัญญาจ้างงาน
สำหรับอาชีพเกษตรกร
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- โฉนดที่ดิน หรือสัญญาเช่าที่ดิน
- บัตรเกษตรกร
สำหรับอาชีพไรเดอร์
- สำเนาบัตรประชาชน 4 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน 4 ชุด
- บัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารหัก ณ ที่จ่าย ทวิ 50
- หนังสือสัญญาจ้างงาน
- รายการสรุปรายได้จากแอปพลิเคชัน
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่ต้องการจะช่วยให้การขอสินเชื่อดำเนินไปได้เร็วและมีโอกาสผ่านได้มากขึ้น
เพิ่มความมั่นใจในการขอสินเชื่อ
การเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้านจะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่านไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้น หากคุณทำตามเทคนิคที่กล่าวมาและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามอาชีพของคุณ การขอสินเชื่อก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้คุณยังควรตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเองให้ดี หากมีประวัติเครดิตดี โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อก็จะสูงขึ้น
สำหรับ เงินเดือน 9 000 ซื้อรถได้ไหม
- เลือกรถที่มีราคาเหมาะสมกับรายได้และค่าใช้จ่ายที่มี
- เลือกรถมือสองจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายที่มีชื่อเสียง
- คำนึงถึงค่างวดรถที่จะไม่เกิน 30% ของรายได้ของคุณ
- เลือกสินเชื่อรถยนต์ที่มีดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขที่เหมาะสม
- คำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย เพื่อให้คุณสามารถใช้รถได้อย่างยั่งยืน
การมีรถยนต์เป็นของตัวเองถือเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้แม้จะมีรายได้ไม่สูง แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้การเป็นเจ้าของรถนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตการเงินในอนาคต
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
0 Comments