บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการคำนวณสินเชื่อรถยนต์และการคิดดอกเบี้ยแบบง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นนักการเงินก็ทำได้ ถ้าคุณสนใจซื้อรถใหม่ หรือคิดจะรีไฟแนนซ์รถ ลองมาดูการ คํานวณ สินเชื่อ รถยนต์ และดอกเบี้ยแบบละเอียด เพื่อช่วยในการวางแผนการผ่อนชำระให้ตรงกับงบประมาณของคุณกันเถอะ
คำนวณสินเชื่อรถยนต์
สินเชื่อรถยนต์ทั่วไปมีวิธีการคิดดอกเบี้ยหลัก ๆ สองแบบ ได้แก่:
- ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate): ดอกเบี้ยแบบคงที่คำนวณจากเงินต้นเต็มจำนวน ไม่ว่าเงินต้นจะลดลงเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจะยังคงคิดจากจำนวนเดิม
- ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate): ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกจะคำนวณจากยอดเงินต้นที่คงเหลือ ดังนั้น เมื่อเราชำระหนี้ เงินต้นลด ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ลดตาม
ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน สำหรับคนที่ต้องการรู้ว่าแต่ละแบบคิดยังไง มาดูกันแบบละเอียดยิบ
วิธีเลือกสินเชื่อรถยนต์
การเลือกสินเชื่อรถยนต์ไม่ควรดูแค่ดอกเบี้ยอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาด้วย:
- ระยะเวลาผ่อนชำระ: ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นอาจทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง แต่ดอกเบี้ยรวมอาจเพิ่มขึ้น
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: บางครั้งการขอสินเชื่ออาจมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าประกัน ค่าธรรมเนียม
- เปรียบเทียบหลาย ๆ ธนาคาร: ธนาคารต่าง ๆ อาจมีเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ควรลองเปรียบเทียบดูหลาย ๆ แห่งเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยจากธนาคารต่าง ๆ ในปี 2567
สำหรับผู้ที่สนใจดูอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ปีล่าสุด (2567) จากธนาคารชั้นนำ เราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้คุณพิจารณากันง่าย ๆ ดังนี้:
- ธนาคารกสิกรไทย (KBank): ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2.75% สำหรับรถใหม่ และ 4.5% สำหรับรถมือสอง
- ธนาคารกรุงศรี (Krungsri): รถใหม่อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2.89% และรถมือสองเริ่มต้นที่ 5.0%
- ธนาคารทิสโก้ (TISCO): อัตราดอกเบี้ยรถใหม่เริ่มต้นที่ 2.7% และรถมือสองที่ 4.99%
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB): ดอกเบี้ยสำหรับรถใหม่เริ่มต้นที่ 2.99% และรถมือสองที่ 5.5%
โดยทั้งนี้แต่ละธนาคารจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับยอดเงินกู้ ระยะเวลาการผ่อน และประเภทของรถ
ตัวช่วย คํานวณ สินเชื่อ รถยนต์
ปัจจุบันหลายธนาคารมีเครื่องมือคํานวณ สินเชื่อ รถยนต์ ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทิสโก้, และอื่น ๆ เครื่องมือนี้ช่วยให้เราใส่ยอดกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และคำนวณค่างวดรายเดือนได้ทันที
ศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับการผ่อนรถ
- จัดไฟแนนซ์รถยนต์
การขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อซื้อรถ เมื่อเราไม่มีเงินก้อนสำหรับจ่ายค่ารถทั้งจำนวน ธนาคารจะจ่ายค่ารถให้ก่อน เราจึงผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับธนาคารเป็นรายเดือน - ยอดจัดไฟแนนซ์รถยนต์
ยอดเงินที่เหลือหลังจากหักเงินดาวน์ออกจากราคารถ เป็นจำนวนเงินที่ธนาคารอนุมัติให้เรากู้ไปผ่อนพร้อมดอกเบี้ยรายเดือน - เงินดาวน์
เงินก้อนแรกที่เราจ่ายเองก่อนเริ่มผ่อนชำระส่วนที่เหลือกับธนาคาร - ดอกเบี้ยคงที่
ดอกเบี้ยที่คิดจากยอดจัดไฟแนนซ์ตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดสัญญา โดยดอกเบี้ยจะคงที่ทุกงวดจนผ่อนชำระครบ - ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
ดอกเบี้ยที่คำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ยิ่งจ่ายต้นมาก ดอกเบี้ยก็ลดลงตาม
วิธีคำนวณผ่อนรถและดอกเบี้ย
- ราคารถ – เงินดาวน์ = ยอดจัดไฟแนนซ์
- ยอดจัดไฟแนนซ์ x อัตราดอกเบี้ย = ดอกเบี้ยรายปี
- ดอกเบี้ยรายปี x จำนวนปีที่ผ่อน = ดอกเบี้ยทั้งหมด
- ยอดจัดไฟแนนซ์ + ดอกเบี้ยทั้งหมด = ยอดรวมที่ต้องชำระ
- ยอดรวม / จำนวนเดือน = ค่างวดรายเดือน
ตัวอย่างการคำนวณ
รถราคา 1,000,000 บาท ดาวน์ 40% (400,000 บาท) ดอกเบี้ย 6% ต่อปี ผ่อน 48 เดือน
- ยอดจัดไฟแนนซ์ = 600,000 บาท
- ดอกเบี้ยต่อปี = 36,000 บาท
- ดอกเบี้ยทั้งหมด = 36,000 x 4 = 144,000 บาท
- ยอดรวมต้องชำระ = 744,000 บาท
- ค่างวดรายเดือน = 744,000 ÷ 48 = 15,500 บาท
วิธีผ่อนรถอย่างมีประสิทธิภาพ
- วางแผนการผ่อนให้ดี
การดาวน์มากช่วยลดดอกเบี้ย ควรเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ประกันภัยและค่าน้ำมัน - เลือกซื้อรถให้เหมาะสม
ศึกษาข้อมูลรถที่ต้องการ ทั้งฟังก์ชัน การบริการหลังการขาย และความปลอดภัย - มองหารถรุ่นก่อนหน้า
โมเดลปีที่แล้วมักมีราคาถูกกว่ารถรุ่นใหม่ล่าสุด - เลือกซื้อช่วงมอเตอร์โชว์หรือปลายเดือน
ช่วงปิดยอดขายมักมีข้อเสนอพิเศษให้เลือกมากขึ้น - กำหนดงบผ่อนให้เหมาะสม
การผ่อนรถไม่ควรเกิน 20-40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือใช้ในชีวิตประจำวัน
ข้อดีของการ คํานวณ สินเชื่อ รถยนต์ ด้วยตัวเอง
การรู้วิธี คํานวณ สินเชื่อ รถยนต์ และดอกเบี้ยช่วยให้เรา:
- วางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น: ทำให้รู้ว่าเราควรเลือกสินเชื่อแบบไหนและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับงบประมาณ
- เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน: ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกที่ไหนให้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขดีที่สุด
- เข้าใจโครงสร้างการผ่อนชำระ: เมื่อเข้าใจโครงสร้างดอกเบี้ย เราจะรู้วิธีการจ่ายเพื่อให้ลดหนี้ได้เร็วขึ้น
- ป้องกันการจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินไป: เมื่อเรามีความเข้าใจเรื่องการคำนวณดอกเบี้ย ก็สามารถต่อรองเงื่อนไขกับธนาคารได้ดียิ่งขึ้น
วิธีเลือกประเภทรถที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณ
การเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณที่เรามีเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนซื้อรถ หากคุณต้องการรถที่สามารถใช้เดินทางในเมืองเป็นหลัก อาจจะเลือกซื้อรถขนาดเล็ก เช่น รถซีดานหรืออีโคคาร์ ซึ่งราคาจะประหยัดกว่ารถ SUV หรือรถกระบะที่เหมาะกับการใช้งานในเส้นทางที่ยากลำบาก หรือเน้นบรรทุกของ
ประเภทการใช้งานของรถ
- ใช้ในเมือง: รถเล็ก เช่น รถซีดานหรืออีโคคาร์ เหมาะสำหรับขับในเมือง เพราะประหยัดน้ำมันและจอดง่าย
- เดินทางไกลบ่อย: หากต้องการรถสำหรับการเดินทางไกล ควรมองหารถที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เช่น SUV หรือรถซีดานที่มีขนาดกลางขึ้นไป
- เน้นการบรรทุก: หากมีความจำเป็นต้องบรรทุกของ หรือมีธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้า รถกระบะหรือรถตู้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องคำนึงถึง
การซื้อรถไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนรถเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องคำนึงถึง เช่น
- ค่าบำรุงรักษา: การซ่อมบำรุงและการเปลี่ยนอะไหล่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การวางแผนงบประมาณสำหรับการบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ
- ค่าประกันภัย: ค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามประเภทและยี่ห้อของรถ ควรคำนึงถึงงบประกันที่สามารถจ่ายได้ทุกปี
- ค่าน้ำมัน: รถบางประเภทหรือบางยี่ห้อมีการประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถอื่น หากต้องการใช้รถในระยะทางไกลบ่อย ๆ การเลือกซื้อรถที่มีการประหยัดน้ำมันสูงเป็นการลงทุนที่ดี
เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ แหล่ง
การตรวจสอบข้อเสนอจากหลาย ๆ แหล่งสามารถช่วยให้คุณได้ดีลที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือข้อเสนอพิเศษจากทางไฟแนนซ์ เช่น บางธนาคารอาจเสนอโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำในช่วงเวลาที่กำหนด การค้นคว้าและสำรวจข้อเสนอพิเศษจึงเป็นอีกขั้นตอนสำคัญ
- เช็กข้อเสนอจากหลายธนาคาร: แต่ละธนาคารมีข้อเสนอสินเชื่อที่ต่างกัน การเปรียบเทียบข้อเสนอจะช่วยให้คุณเจอทางเลือกที่เหมาะกับงบประมาณ
- มองหาโปรโมชั่นพิเศษ: บางช่วงเวลาเช่นเทศกาลมอเตอร์โชว์ หรืองานแสดงรถยนต์ใหญ่ๆ อาจมีข้อเสนอพิเศษ เช่น ดอกเบี้ย 0% หรือของแถมพิเศษ
- การขอคำปรึกษาจากเซลล์: บางครั้งการพูดคุยกับเซลล์ขายรถสามารถให้คำแนะนำดี ๆ ได้ เพราะบางช่วงเวลาจะมีการทำโปรโมชันลดราคาพิเศษ หรือข้อเสนอที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของลูกค้า
เลือกแหล่งสินเชื่อที่เหมาะสม
การเลือกแหล่งสินเชื่อที่น่าเชื่อถือและมีข้อเสนอที่เหมาะกับเราเป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ บางครั้งธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุ้นเคยอาจมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเดิม เช่น ส่วนลดดอกเบี้ย หรือการอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็ว
- ธนาคารใหญ่หรือสถาบันการเงินเฉพาะทาง: ธนาคารใหญ่เช่น กสิกรไทย, ธนชาต, ไทยพาณิชย์ มีข้อเสนอสินเชื่อรถยนต์ที่หลากหลาย
- เลือกสินเชื่อที่ไม่ยุ่งยาก: สำหรับคนที่ต้องการอนุมัติไว การเลือกใช้บริการกับสถาบันการเงินที่เน้นอนุมัติสินเชื่อรวดเร็วก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ลดต้นลดดอกให้เร็วขึ้น
การผ่อนชำระในรูปแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีเทคนิคช่วยลดภาระการจ่ายดอกเบี้ย โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- จ่ายเพิ่มเมื่อมีโอกาส: การเพิ่มเงินต้นที่ผ่อนชำระในแต่ละเดือนจะช่วยลดดอกเบี้ยลงเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ: การขยายระยะเวลาผ่อนชำระอาจทำให้ดอกเบี้ยรวมสูงขึ้น การเลือกผ่อนชำระตามระยะเวลาที่วางแผนไว้เป็นทางเลือกที่ดี
วางแผนเงินสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
การผ่อนรถมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมในกรณีฉุกเฉินด้วย หากมีเงินออมสำรองจะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น เช่น ค่าซ่อมแซมเมื่อรถเสีย ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด เป็นต้น
เช็กเครดิตก่อนยื่นกู้
การเช็กเครดิตก่อนยื่นกู้เป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้เรารู้ถึงคะแนนเครดิตของตัวเอง หากมีหนี้ที่ยังไม่ปิดหรือประวัติเครดิตที่ไม่ดี ธนาคารอาจพิจารณาอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น หรืออาจปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อ การเตรียมพร้อมก่อนการกู้สินเชื่อด้วยการตรวจสอบเครดิตจะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์การเงินตัวเองมากขึ้นและสามารถวางแผนการกู้ได้ดีขึ้น
บทสรุปของการ คํานวณ สินเชื่อ รถยนต์
การ คํานวณสินเชื่อรถยนต์ และวิธีคิดดอกเบี้ยรถไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักวิธีการและเข้าใจพื้นฐานในการคำนวณ การมีเครื่องมือคำนวณออนไลน์ก็ช่วยให้การเปรียบเทียบสินเชื่อจากหลายธนาคารง่ายขึ้น เมื่อเรารู้ว่าค่างวดต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณเท่าไร ก็จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อรถหรือรีไฟแนนซ์รถเป็นเรื่องง่ายขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
0 Comments